กรมเจราจาการค้าระหว่างประเทศเผยผลประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียนนัดแรก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้ เห็นชอบแผนทำงานด้านเศรษฐกิจที่จะผลักดันในปี 62 เตรียมเร่งพัฒนาคลังข้อมูลการค้าอาเซียน ทดสอบระบบแลกเปลี่ยนเอกสารพิธีการศุลกากรผ่านอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มความตกลงยอมรับร่วมวิชาชีพใหม่ ปรับปรุงความตกลงการลงทุน ทำแผนด้านดิจิทัล และร่วมมือตรวจสอบสิทธิบัตร พร้อมเดินหน้าขยายการค้า การลงทุนกับคู่เจรจา FTA นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียนครั้งแรก ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 ม.ค.2562 ที่กรุงเทพฯ ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของอาเซียน โดยในด้านการค้า จะเร่งพัฒนาระบบคลังข้อมูลการค้าของอาเซียนให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2562 และทดสอบระบบการแลกเปลี่ยนเอกสารพิธีการทางศุลกากรผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเริ่มจากการแลกเปลี่ยนใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า และการจัดทำรายละเอียดความตกลงด้านมาตรฐานและการรับรองยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของอาเซียนให้สามารถใช้งานและเชื่อมโยงกับประเทศสมาชิกอาเซียนได้ครบทั้ง 10 ภายในปี 2562 สำหรับด้านการค้าบริการ จะเร่งเจรจาหาอาชีพใหม่ๆ ที่จะจัดทำข้อตกลงยอมรับร่วมคุณสมบัติวิชาชีพระหว่างอาเซียน เพิ่มเติมจาก 8 สาขา เช่น แพทย์ วิศวกร สถาปนิก นักบัญชี ที่ได้จัดทำข้อตกลงฯ ไปแล้ว , ด้านการลงทุน กำหนดให้มีการลงนามและให้สัตยาบันพิธีสารปรับปรุงความตกลงการลงทุนของอาเซียน , ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จะเร่งเผยแพร่กฎระเบียบด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของแต่ละประเทศอาเซียนโดยเชื่อมโยงผ่านเว็บไซต์ของอาเซียน รวมทั้งเร่งจัดทำแผนการดำเนินงานด้านดิจิทัลของอาเซียนให้สำเร็จในปี 2562 และด้านทรัพย์สินทางปัญญา จะเร่งขับเคลื่อนความร่วมมือแลกเปลี่ยนผลการตรวจสอบสิทธิบัตรของอาเซียน เพื่อให้ผลการตรวจสอบมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงแผนการทำงานในปี 2562 ของอาเซียนกับคู่เจรจา 11 ประเทศ เช่น ให้สมาชิกอาเซียนเร่งให้สัตยาบันพิธีสารยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน เพื่อให้กฎถิ่นกำเนิดสินค้าฉบับใหม่ มีผลใช้บังคับภายในกลางปี 2562 และในส่วนการให้สัตยาบันความตกลงการค้าเสรีและความตกลงการลงทุนอาเซียน-ฮ่องกง ซึ่งไทยและสิงคโปร์ให้สัตยาบันแล้วนั้น จะเร่งเจรจาให้สมาชิกอาเซียนที่เหลือให้สัตยาบันโดยเร็วภายในไตรมาสแรกของปี 2562 ส่วนการลงนามพิธีสารแก้ไขความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อผนวกความตกลงด้านการค้าบริการ การลงทุน และการเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา จะเร่งเจรจาให้สมาชิกอาเซียนดำเนินการให้เสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2562 เป็นต้น นางอรมนกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบประเด็นเศรษฐกิจที่ไทยในฐานะประธานอาเซียนเสนอให้สมาชิกอาเซียนขับเคลื่อนให้เกิดผลสำเร็จในปี 2562 ซึ่งครอบคลุม 3 ด้าน 13 ประเด็น เช่น การเตรียมความพร้อมอาเซียนรับมือการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 (4IR) การพัฒนาทักษะผู้ประกอบวิชาชีพ การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในผู้ประกอบการรายย่อย การเชื่อมโยงใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ครบทั้ง 10 ประเทศ ในปี 2562 การส่งเสริมการประมงที่ยั่งยืน และการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาพลังงานชีวภาพในอาเซียน เป็นต้น ขณะเดียวกัน ในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมยังได้สนับสนุนข้อเสนอของไทยที่จะร่วมกับองค์การการค้าโลก (WTO) จัดสัมมนาเรื่องการปฏิรูปองค์การการค้าโลก (WTO Reform) โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจาก WTO และประเทศต่างๆ ทั่วโลก มาแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องการปฏิรูป WTO เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ด้านเศรษฐกิจของอาเซียนได้แลกเปลี่ยนความเห็นและรับทราบความคืบหน้าการหารือเรื่องนี้ที่เจนีวา เนื่องจากเป็นประเด็นสำคัญใน WTO ที่สมาชิกอาเซียนต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและร่วมมีบทบาทในการปฏิรูปองค์กรระหว่างประเทศที่มีความสำคัญต่อการค้าโลก
ที่มา : www.commercenewsagency.com