สงครามการค้า (Trade War) ยังไม่ทันสงบ สงครามสงครามค่าเงิน (Currency War) ก็กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว โดยสงครามทั้งหมดจะเริ่มต้นที่ใครไปไม่ได้นอกจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ครับ เมื่อวานนี้ทรัมป์ได้ทวีตแสดงความไม่พอใจต่อ ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ได้ส่งสัญญาณออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Euro Zone และจะลดดอกเบี้ยลงจนทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้ข้าวของในยุโรปถูกลงเมื่อเทียบกับสหรัฐ จนได้เปรียบทางการค้าและจะทำให้สินค้าสหรัฐขายไม่ออก ทรัมป์ได้ส่งอีกทวีตออกมาบอกว่า ทั้งจีนและยุโรป ได้ทำแบบนี้นี้มานานหลายปีแล้ว ซื่งทรัมป์บอกว่าจะไม่อยู่เฉยๆ และจะไม่ยอมปล่อยให้ค่าเงินต่างชาติที่อ่อนมาทำลายความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐแน่ๆ และในขณะนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างการประชุม FOMC หรือการประชุมกำหนดนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ โดยผลจะออกมาประมาณตีหนึ่งบ้านเรา แต่คาดว่ายังไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอัตตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ แต่ถ้าทรัมป์ต้องการจะสร้างสงครามค่าเงินจริงๆ จะต้องเข้าไปกดดัน FED ให้ลดดอกเบี้นในไม่ช้านี้แน่ๆครับ เพื่อที่จะทำให้ต่าเงินสหรัฐนั้นอ่อนลงไปบ้าง
-------------------------------- สงครามสงครามค่าเงิน (Currency War) คืออะไร ? สงครามค่าเงินคือ สงครามที่ประเทศต่างๆ แข่งขันกันลดค่าเงินลง โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการส่งออกและส่งเสริมธุรกิจในประเทศให้สามารถผลิตและเจริญเติบโตไปช่วยเศรษฐกิจของประเทศได้ เพราะหากประเทศ A ค่าเงินอ่อนกว่าหรือสกุลเงินมีค้าน้อยลง ก็จะทำให้ต่างชาตินั้นใช้เงินน้อยลงในการแลกเงินสกุลประเทศ A ที่เท่าเดิม ก็จะทำให้ต่างชาตินั้นมีกำลังการซื้อของในประเทศ A มากขึ้น หรือทำให้ของประเทศ A ถูกลงในมุมของต่างชาตินั้นเอง
-------------------------------- แล้วสงครามค่าเงินจะกระทบกับไทยเราอย่างไร ? อย่างแรกเลยนะครับ การที่ต่างชาติลดดอกเบี้ยแข่งกัน มันจะทำให้ค้าเงินเรายิ่งแข็งค่าไปเรื่อยๆ และลดความสามรถในการส่งออกของเราลง หลักเศรษฐศาสตร์นั้นได้สร้างมาให้ทุกการส่งออกและนำเข้าสมดูลไปตามกลไกตลาด แต่หากมีชาติใด โดยเฉพาะประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่พยายามจะทำให้ค่าเงินของตัวเองอ่อนกว่าที่ควรเป็นตามกลไก ก็ย่อมจะส่งผลลูกโซ่ในทางลบไปสู่ระบบเศรษฐกิจในประเทศอื่นๆอยู่แล้ว วันนี้นั้นค่าเงินบาทเทียบยูโรนั้นอยู่ที่ 35.0 บาทต่อยูโร ซึ่งถือว่าแข็งค่ามากที่สุดแทบจะในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว และค่าเงินบาทเทียบดอลล่าร์สหรัฐที่ 31.2 บาทนั้น ก็แทบจะแข็งค่าที่สุดในรอบ 6 ปีเลยทีเดียว
บทความโดย : เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP