• ปรับขนาด
    ตัวอักษร
บริการ
oss นรา
21.11
oss นรา
สวัสดีจร้าาา...วันนี้มีอะไรให้ oss นรา ช่วยคะ ถาม oss นรา มาได้เลย จะรีบไปหาคำตอบให้คะ
21.11
สนใจข้อมูลอะไรเป็นพิเศษคะ
อีเมล์ :
รหัสผ่าน :
ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี62
23 สิงหาคม 2562

ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี ๖๒ ประกอบด้วย ๔ ด้านหลัก ได้แก่ 

๑.มาตรการบรรเทาค่าครองชีพผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกองทุนหมู่บ้าน  ๑.มาตรการบรรเทาค่าครองชีพผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกองทุนหมู่บ้านประกอบด้วย ๔ โครงการ ดังนี้ ๑.๑ มาตรการพยุงการบริโภคของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคนจะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มอีกจำนวน ๕๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน ๑.๒ มาตรการมอบเงินช่วยเหลือสำหรับผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป จะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน ๕๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน ๑.๓ มาตรการช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตรแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้รับสิทธิภายใต้โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้รับสิทธิภายใต้โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของ พม.ที่ดูแลบุตรและเด็กเล็กที่มีอายุ ๐ ถึง ๖ ปี ให้ได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มอีกจำนวน ๓๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน ทั้งนี้ การบรรเทาค่าครองชีพผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้ง ๓ มาตรการข้างต้น เป็นการช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นระยะเวลา ๒ เดือน ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.๖๒ โดยเติมเงินเข้าช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-money) เพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้าและบริการที่จำเป็น ผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Capture: EDC) แอปพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐ หรือถอนเงินสดจากเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ได้ ๑.๔ มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่คงค้างกับสถาบันการเงิน เพื่อลดภาระในการชำระหนี้และเพิ่มสภาพคล่องให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กองทุนหมู่บ้านฯ) จำนวน ๕๐,๗๓๒ แห่ง โดยเป็นกองทุนหมู่บ้านฯ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ ธ.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน ๒๗,๒๔๙ แห่ง และอยู่ภายใต้การดูแลของ ธ.ออมสิน จำนวน ๒๓,๔๘๓ แห่ง ทั้งนี้ จะพักชำระเฉพาะเงินต้นเท่านั้น และยังคงต้องชำระดอกเบี้ยตามปกติ โดยมีรายละเอียดในการดำเนินงานดังนี้ ๑) ธ.ก.ส.เปิดลงทะเบียนกองทุนหมู่บ้านฯ ที่สมัครใจเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นกองทุนหมู่บ้านฯ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ ๓๐ ก.ย.๖๒ และจะเริ่มดำเนินการพักชำระหนี้เงินต้นตั้งแต่วันที่ ๑ ต.ค.๖๒-๓๐ ก.ย.๖๓ (๑ รอบปีบัญชีของธนาคาร) ๒) ธนาคารออมสินเปิดลงทะเบียนกองทุนหมู่บ้านฯ ที่สมัครใจเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นกองทุนหมู่บ้านฯ ตั้งแต่วันที่ ๑ ต.ค.๖๒-๓๑ ธ.ค.๖๒ และจะเริ่มดำเนินการพักชำระหนี้เงินต้นตั้งแต่วันที่ ๑ ม.ค.-๓๑ ธ.ค.๖๓ (๑ รอบปีบัญชีของธนาคาร)

๒.มาตรการเพื่อบรรเทาค่าครองชีพสำหรับเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง ปี ๖๒ และเกษตรกรรายย่อยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาระหนี้สินของ ผู้ประสบภาวะวิกฤติภัยแล้งและลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรรายย่อย ประกอบด้วย ๓ โครงการ ดังนี้ ๒.๑ โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ โดยลดดอกเบี้ยให้แก่เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) (ประกาศเขตฯ ภัยแล้ง)ให้ได้รับสิทธิ์จ่ายดอกเบี้ยเหลือร้อยละ ๐.๑ ต่อปี สำหรับต้นเงินกู้ที่ไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท เป็นระยะเวลา ๑ ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ ส.ค.๖๒-๓๑ ก.ค.๖๓  ๒.๒ โครงการขยายเวลาชำระหนี้เงินกู้ โดยขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้แก่เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดที่มีการประกาศเขตฯ ภัยแล้ง ให้ได้รับสิทธิ์ขยายเวลาชำระหนี้เดิมเป็นระยะเวลา ๒ ปีนับจากงวดชำระเดิม แต่ไม่เกินวันที่ ๓๑ กค.๖๔ นอกจากนี้ ธ.ก.ส. มีมาตรการสินเชื่อผ่อนปรนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ให้มีเงินทุนสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายหรือค่าลงทุนเพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพ  และเป็นค่าสร้างหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือโรงเรือนการเกษตร รวมถึงฟื้นฟูการผลิต ที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติ วงเงินรวม ๕๕,๐๐๐ ล้านบาท ๒.๓ โครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๒/๖๓ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรสามารถดำรงชีพอยู่ได้ และลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือไร่ละ ๕๐๐ บาท ครัวเรือนละไม่เกิน ๒๐ ไร่ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๒/๖๓ ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี ๒๕๖๒ (รอบที่ ๑) กับกรมส่งเสริมการเกษตร

๓.มาตรการเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคการท่องเที่ยว และส่งเสริมการลงทุนของ SMEs และภาคเอกชนผ่านมาตรการทางการเงินและมาตรการทางภาษี  ๓.๑ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ "ชิมช้อปใช้" เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ และสนับสนุนการใช้จ่ายผ่านระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (g-Wallet) โดยผู้สนใจเข้าร่วมมาตรการจะต้องมีอายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในวันลงทะเบียน และมีบัตรประจำตัวประชาชน สามารถลงทะเบียน เข้าร่วมมาตรการผ่านเว็บไซต์ ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการลงทะเบียนจะได้รับสิทธิประโยชน์ ๒ ส่วนด้วยกัน ได้แก่  ๑) รัฐบาลสนับสนุนวงเงินจำนวน ๑,๐๐๐ บาทต่อคน เพื่อเป็นสิทธิในการซื้อสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการ โดยไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้  ๒) หากผู้ลงทะเบียนเติมเงินเพิ่มเติมเพื่อใช้จ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าที่พัก หรือค่าสินค้าท้องถิ่นจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการ รัฐบาลจะสนับสนุนวงเงินชดเชยเป็นจำนวนเท่ากับ ๑๕% ของยอดชำระเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน ๔,๕๐๐ บาทต่อคน (วงเงินใช้จ่ายไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาทต่อคน) เพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน ในการซื้อสินค้าและบริการดังกล่าวจะต้องเป็นการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เพื่อซื้อสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการที่รับชำระเงินด้วยแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ๓.๒ โครงการ “ถึงเวลาทัวร์ ให้ทั่วไทย” ขยายเวลายกเว้นตรวจลงตรา (Visa) เพื่อการท่องเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย ระหว่างเดือน ก.ย.๖๒-ส.ค.๖๓  ๓.๓ โครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย ผ่านกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมดำเนินการร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย  โดยมีวงเงินสินเชื่อรวม ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย ๑% ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเพื่อสนับสนุน SMEs ทั่วไปให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องหรือลงทุนขยายกิจการ และสนับสนุน SMEs ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว และบริการเพื่อปรับปรุงซ่อมแซม ขยายกิจการ และยกระดับการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการให้บริการ ๓.๔ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ ๘ (PGS๘) วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ ๑๕๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ SMEs ที่ต้องการสินเชื่อจากสถาบันการเงินแต่มีหลักประกันไม่เพียงพอ ระยะเวลาค้ำประกันสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน ๑๐ ปี ค่าธรรมเนียมค้ำประกันเฉลี่ยไม่เกิน ๑.๗๕% ต่อปี โดย บสย.จ่ายค่าประกันชดเชยเฉลี่ยไม่เกิน ๓๐% และรัฐบาลจ่ายค่าธรรมเนียมแทนผู้ประกอบการเฉลี่ยไม่เกิน ๒ ปี หรือ ๓.๕% ของวงเงินค้ำประกัน ๓.๕ มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายเพื่อการลงทุนในเครื่องจักรได้ ๑.๕ เท่าของที่จ่ายจริง (หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา ๑ เท่าตามปกติ และทยอยหักรายจ่ายส่วนเพิ่มอีก ๐.๕ เท่า โดยเฉลี่ยเท่ากันในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี) สำหรับการลงทุนตั้งแต่วันที่ ๑ ก.ย.๖๒-๓๑ พ.ค.๖๓ นอกจากนั้น สถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ยังมีมาตรการสินเชื่อผ่อนปรนเพื่อสนับสนุน SMEs และที่อยู่อาศัยเพื่อสนับสนุนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้เพิ่มขึ้น เพื่อเสริมสภาพ คล่องหรือลงทุนขยายกิจการ และสนับสนุนให้ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในอัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนปรน วงเงินรวม ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท สำหรับสินเชื่อ SMEs และวงเงิน ๕๒,๐๐๐ ล้านบาท สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย ๔.แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและงบลงทุนของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย

 

ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส